คุณสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองประธานคณะกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เป็นผู้บริหารของเครือซีพี อีกท่านที่เปิดโอกาสให้คณะทำงานด้านContent 100ปี ซีพีได้รับฟังเรื่องราวประสบการณ์การทำงานในเครือซีพี ว่าเข้ามาทำงานที่ซีพีตั้งแต่ปี2518หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จุดเริ่มต้นทำงานซีพีปี 2518
“ก่อนที่ผมจะมาอยู่ซีพี ซีพีเริ่มมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารสัตว์และการเกษตร ผมเข้ามา เริ่มต้นด้วยการเป็นเซลล์ จริงๆแล้วผมต้องการเป็นเซลล์ตอนอยู่ในมหาวิทยาลัย ทำกิจกรรม ก็ยังคิดว่าเซลล์เป็นชีวิตที่มีโอกาสไปอยู่ข้างนอก ได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่างๆหรือเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ผมมีคนรู้จักที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับไก่ ซึ่งเป็นญาติเค้าเห็นผมจบใหม่ๆ เค้าก็แนะนำให้ผมไปสมัครซีพี ผมก็มาสมัครเป็นบริษัทแรกและเป็นบริษัทเดียวที่รับผมเข้ามาจนถึงวันนี้ 50ปี ก็หมายความว่าตั้งแต่ผมจบธรรมศาสตร์ก็ทำงานแห่งแรกที่ซีพีจนถึงทุกวันนี้”
“ออฟฟิศแรกในการทำงานคือที่ตรอกจันทน์ ผมจำแม่นเลยหัวหน้าผมคนแรกคือ คุณสงัด และก็มีการเปลี่ยนแปลง ท่านประเสริฐมาดูแล ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของซีพี จนผมมีโอกาสครั้งหนึ่งก็มีโอกาสได้พบท่านประธานอาวุโส เพราะท่านเข้ามาร่วมประชุมกับเซลล์เรื่องอาหารสัตว์ ตอนนั้นท่านยังหนุ่มไม่น่าจะเกิน36,37 ซึ่งท่านก็เข้ามาบริหารในยุคนั้น”
คุณสุขวัฒน์เล่าต่อว่าผมทำงานกับท่านประเสริฐ พุ่งกุมาร เป็นเซลล์ได้2ปี ท่านก็มองว่า ผมน่าจะไปเริ่มต้นงานที่ต่างประเทศที่มาเลเซีย ที่มาเลเซียมีการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ ดูแลเรื่องไก่ ขายไก่กระทง ซึ่งตรงกับจริตผมพอดีที่อยากจะไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ อยู่มาเลเซีย 8-9ปีก็ย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์ สิงคโปร์ก็ไปทำหน้าที่ขายสุกร เพราะเรามีฟาร์มสุกรอยู่ที่ปองโก ขายสุกรเดือนหนึ่งประมาณ7-8พันตัว แต่ก็เจอปัญหาเหมือนกันคือขายไม่หมด พอขายไม่หมดกลายเป็นปัญญาของเรา ทำให้มานั่งคิดว่าถ้าขายไม่หมด จะขายให้หมดจะขายอย่างไร
“เรามีเจ็ดพันตัวที่จะต้องขายให้ได้ทุกเดือน เราก็ต้องขายให้ได้เก้าพันตัว ขายหมดก็เป็นปัญหาแต่เป็นปัญหาในทางบวก โดยสามารถไปซื้อจากฟาร์มที่ซื้ออาหารสัตว์เรา เราได้เรียนรู้ว่าทุกปัญหามีทางออก มีทางแก้ไข หลังจากนั้นก็ย้ายเข้ามาที่กรุงเทพก็เจอท่านประธานประเสริฐๆก็ชวนให้มาทำธุรกิจแปรรูปอาหาร แล้วก็มาทำหน้าที่ขายปี2530 โรงงานที่ขายครั้งแรกอยู่ที่บางนาก็ขายลูกชิ้นไก่ รับผิดชอบทางด้านอีสาน ตอนนั้นก็มีคุณจงดูแลเรื่องการขาย ชีวิตก็ไต่เต้ามาเรื่อยๆ แต่การไต่เต้าก็มาจากโอกาสจากขายอาหารสัตว์ ขายสุกร ก็มาขายอาหารสำเร็จรูปซึ่งก็ยังไม่ค่อยรู้แนวคิด ก็มาเรียนรู้ ทุกอย่างเราต้องมาเรียนรู้ สุกรขายไม่หมดก็หาทางออกด้วยการทำเป็นลูกชิ้นแล้วค่อยมาตัวอื่น”
สู่เส้นทางอาหารสำเร็จรูป
คุณสุขวัฒน์เล่าว่าเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มทำอาหารสำเร็จรูป ขายลูกชิ้นไก่ พบว่าเมื่อโรงงานมี By Product เราจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ By Product อย่างไร เราจะสร้างมูลค่า By Product ให้เท่ากับเนื้อไก่ไหม ก็กลายเป็นสินค้าขึ้นมาเป็นลูกชิ้น ซึ่งมี ตลาด 2ระดับคือตลาดที่เป็นห้างสรรพสินค้าและตลาดสด แต่ตลาดส่วนใหญ่จะเป็นตลาดสด จากนั้นก็มีการแปรรูปมากขึ้นเป็นไส้กรอก อันนี้ก็ถือเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่งของการแปรรูปสินค้า การทำให้By Product มีมูลค่าเพิ่ม เป็นการพัฒนาแบบขั้นบันไดและทำให้เรียนรู้ว่าถ้าเราสามารถปีนภูเขาลูกหนึ่งได้ยังมีภูเขาที่สูงกว่ารอคุณอยู่
ซีพีได้พัฒนาเปลี่ยนแปลง จากการที่ขายไก่ตัว มาเป็นไก่ชำแหละ แล้วก็นำเศษจากการชำแหละมาสร้างเป็นสินค้า เป็นการมองเห็นโอกาสทางตลาด ยกตัวอย่างโครงไก่ที่เป็นBy Product ราคาต่ำมาก เราก็มีพวกวิศกร และR&Dมาช่วยคิดจะนำมาปรับสภาพอย่างไรให้เกิดมูลค่าได้ ตอนนั้นคนทำไส้กรอกมีหลายเจ้า แหลมทอง บางกอกแฮม ตรากวาง แต่เราไม่มองจากคู่แข่ง เรามองจากโอกาสที่เรามีวัตถุดิบที่จะสร้างมูลค่าและขายเป็นไส้กรอกอย่างไร บางเจ้าไม่มีวัตถุดิบอย่างโครง เรามีไก่ เป็นไส้กรอกไก่
คุณสุขวัฒน์บอกว่าสมัยก่อนการทำตลาด การขายสินค้าปลายทางมีปัญหา อุปสรรค ทั้งในเรื่องการขาย การแข่งขัน การขายก็ต้องมาหาวิธีการขาย ช่องทางขาย เราจะเสียเวลากับช่องทางที่จะขายได้มาก ยุคนั้นก็ต้องเจาะไปที่ตลาดสด เพราะบรรดาห้างยังมีไม่มาก อย่างเซ็นทรัล ฟู้ดแลนด์ ตั้งฮั่วเส่ง และทีหลังก็มีแม็คโคร ยิ่งเรามีช่องทางการขายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นโอกาสของการสร้างอาหารสำเร็จรูปของเรามากขึ้น แม้แต่โรงเรียนก็ถือ เป็นช่องทางหนึ่ง ร้านอาหาร พวกFood Service
เมื่อสังคมเปลี่ยน การลงทุนมากขึ้น ที่เห็นชัดเลยอย่างเซเว่นฯ การมีแม็คโครช่วยให้การขายเพิ่มมากขึ้น เป็นช่องทางที่สำคัญ เรามีโอกาสขายไส้กรอกผ่านท่างเซเว่น แม็คโคร ยิ่งพวกนี้ขยายเท่าไหร่ อาหารสำเร็จรูปก็ขยายตามไปด้วย และวันนี้ซีพีซื้อโลตัสกลับมา เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายท่านประธานอาวุโสเป็นเสมือนผู้ตั้งทฤษฎีกระจายความเสี่ยง ท่านเป็นเจ้าของทฤษฎีกระจายความเสี่ยงเลย ไม่ว่าสุกร ไก่ ไข่ ปลา กุ้ง เราสามารถแปรรูปสินค้าที่หลากหลายและนำไปสู่การเป็นครัวของโลก ท่านประธานอาวุโสมองความยั่งยืนขององค์กรคือการแปรรูปวัตถุดิบ ใช้วัตถุดิบที่มีสร้างให้มีมูลค่า ไม่ใช่การขายสินค้าที่หน้าโรงงาน ซึ่งไม่มีความยั่งยืน เราขายสินค้าหน้าโรงงานมาแล้วกี่ปี มาถึงยุคนี้ ท่านถึงมาสร้างเถ้าแก่น้อย เถ้าแก่กลาง เถ้าแก่ใหญ่ ซึ่งท่านมองเห็นเรื่องนี้และกล้าประกาศซีพีจะเป็นครัวของโลก โดยเอาทุกอย่างมาแปรรูป ทำเป็นอาหารสำเร็จรูป เป็นไส้กรอก พัฒนาไปเป็น ข้าวกล่อง
คุณสุขวัฒน์ขยายความว่าการที่มีพวกโมเดิร์นเทรดใหม่ๆเกิดขึ้นเท่ากับเป็นช่องทางการเติบโต การขยายกิจการของสินค้าสำเร็จรูปต่างๆ ล้วนเป็นโอกาสของซีพี และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงเรื่องอาหารการกินมากขึ้น เราไม่สามารถหยุดการแปรรูปเพราะเรายังมีไก่เป็นสิบล้านตัว สุกรอีกวันหนึ่ง 7-8พันตัว เพราะฉะนั้นเรายังมีโอกาสในการสร้างอาหารสำเร็จรูปอีกมาก
“อย่างอาหารกล่อง ก็เริ่มจากทำเป็นแกง แล้วก็ผัดกระเพรา ตอนนั้นก็มีไม่กี่ชนิด เนื่องจากมันเพิ่งเริ่มต้นในตลาดที่เราเปิดในห้าง ซึ่งก็มีเมนูไม่มาก ห้างก็ยังไม่กล้านำมาจำหน่ายเท่าไหร่ 3-4 เมนู แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนั้นทำแล้วกำไร ส่วนข้าวกล่องในเซเว่นเราก็มาทำหลังจากเปิดตัวไส้กรอกบิ๊กไบท์ เราก็มาครีเอทข้าวกล่องให้เซเว่น และเทียบกันแล้วข้าวกล่องที่ขายในเซเว่นจะขยายตัวมากกว่า เพราะเซเว่นขยายสาขามากขึ้น หลังจากนั้นก็มีแบรนด์ซีพี BKP ข้าวกล่องก็เป็นแบรนด์ของซีพี แล้วตอนหลังเซเว่นเค้าก็ไปทำOwn Brand ตอนหลังก็เกิดโมเดิร์นเทรดตามมาอีก ซึ่งเป็นโอกาสของอาหารสำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร เซเว่นฯ โลตัส ทำให้เราขยายโรงงานจาก 1 เป็น 2,3,4
โอกาสร่วมงานกับท่านประธานอาวุโสจากเกี๊ยวกุ้ง
คุณสุขวัฒน์เล่าว่ามีโอกาสร่วมงานกับท่านประธานอาวุโสจากเรื่องกุ้ง ท่านให้ไปช่วยเรื่องกุ้งที่มีปัญหาขาดทุน ผมในฐานะคนที่ชอบสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าก็มานั่งคิดว่า เราน่าจะออกเป็นเกี๊ยวกุ้ง ทำเป็นสำเร็จรูป ท่านก็สนับสนุน เพราะการแปรรูปกุ้งมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เราก็ขายกุ้งสดแช่แข็ง เด็ดหัว เด็ดหาง แกะเปลือก หลังจากนั้นก็มาเป็นต้มกุ้ง จากกุ้งต้ม ก็พยายามสร้างมูลค่าเพราะมีเศษกุ้ง ก็มาทำเป็นแซนวิช เป็นเบเกอร์กุ้ง แต่ช่องทางขายยังมีจำกัด แต่ช่องทางเกี๊ยวกุ้งกลับมีมาก เพราะโรงงานสร้างมาปีละ15ล้านถ้วยก็เต็มแล้ว มาเต็มในยุคที่ท่านมาดูแลเอง ก็น่าจะสิบกว่าปี ถือเป็นดาวเด่นเพราะท่านผลักดัน คือกุ้งสดแล้วทำเป็นสำเร็จรูป เต็มๆเนื้อๆไม่มีสารเคมีอะไรและฟาร์มกุ้งเราเลี้ยงกุ้งมีคุณภาพ ไม่ใช้ยา เพราะส่งออก เรามีจุดแข็งและเกี๊ยวกุ้งยังไปได้อีกไกล ใหม่ๆก็เจ็บตัวเหมือนกันแต่ซีพีสู้ไม่ยอมแพ้ แต่ก็มีถอยกลับมาดูเพื่อตั้งหลักและเริ่มต้นใหม่
เทคโนโลยีกับการพัฒนาอาหารสำเร็จรูป
“และอีกตัวที่โตเร็วมาก เพราะท่านส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี ท่านไม่กลัวเรื่องการลงทุน ถ้าลงทุนแล้วต้นทุนต่ำ มีประสิทธิภาพผลิตได้มาก ท่านเปิดโอกาสมาก ฉะนั้นอาหารเราเป็นจุดเริ่มต้นการใช้เทคโนโลยีไม่ว่าไส้กรอกก็ดีมีเครื่องจักรใหม่ๆเข้ามาทำต่อเนื่อง ไม่ว่าข้าวกล่องก็มีการแปรรูป การใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยที่สามารถแช่แข็งได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงนั้นตอนที่ท่านมาบริหาร ท่านเป็นผู้เปิดประตูให้คนหนุ่มสาวได้มีโอกาส ท่านเปลี่ยนแปลงจากโลเทคให้เป็นไฮเทคเ รื่องการผลิตอาหาร ท่านเป็นคนที่ยึดในเรื่องคุณภาพเป็นหลัก จนผมต้องนำมาพูดว่าชีวิตคือคุณภาพ คุณภาพคือชีวิตของเรา”คุณสุถขวัฒน์บอก
“ฉะนั้นคนที่ทานของซีพีเค้าทานของที่มีคุณภาพไม่ได้ทานที่ราคา เหมือนที่ท่านพูดคุณต้องขายคุณภาพไม่ใช่ขายราคา ทั่วโลกที่เราส่งออกเค้าซื้อเราเพราะคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่เค้ากำหนด ตรงกับที่ท่านพูดว่าเรื่อยากเราต้องเป็นคนทำ เรื่องยากเราต้องเป็นคนริเริ่มและทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย และสิ่งที่ท่านพูด ผมจดจำไม่มีวันลืม วัตถุดิบทั่วโลกเป็นของเรา คนเก่งคนดีทั่วโลกเป็นของเรา ตลาดทั่วโลกเป็นของเรา เงินทั่วโลกก็คือของเราและท่านยังพูดถึงเรื่องส่งออก ทำไมเราไม่เอาวัตถุดิบที่นั้นแล้วแปรูปเหมือนที่เราแปรรูปในเมืองไทย ถ้าเราถูกจำกัดเงื่อนไขด้านวัตถุดิบก็ไปสร้างโรงงานที่นั่น ใช้วัตถุดิบที่นั่น ใช้คนที่นั่น ตรงกับที่ท่านพูด ทำให้เราขยายไปหลายประเทศ ท่านถึงไปซื้อโรงงานหรือควบกิจการ โรงงานไหนท่านจะให้คนท้องถิ่นเป็นผู้บริหาร คนไทยจะเป็นผู้สนับสนุน สิ่งที่ท่านพูดท่านทำให้เห็นชัด เราถึงมีพี่น้องซีพีที่เป็นชาวต่างชาติ มีDNAเดียวกัน หัวใจเดียวกัน”
และท่านยังมีพูดถึงเรื่องค่านิยมอีก3ประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงรวมทั้งมีความซื่อสัตย์และคุณธรรม คนซีพีควรจดจำและนึกถึง6ค่านิยมตลอดเวลา ท่านทำจริงๆทุกอย่างที่ท่านพูดเป็นรูปธรรม
คุณสุขวัฒน์กล่าวอีกว่าตลอดเวลาที่ผมอยู่ซีพีเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย มองเป็นห่วงโซ่อาหาร เราจะมองอาหารสัตว์ก่อน อาหารสัตว์เป็นต้นน้ำของฟาร์ม แต่จริงๆเป็นปลายน้ำของวัตถุดิบ วันนี้ท่านประธานอาวุโสก้าวไปถึงขั้นปลูกวัตถุดิบเองที่ควบคุมคุณภาพเรียกว่าเมกะฟาร์มและป้อนให้กับโรงงานอาหารสัตว์ อาหารสัตว์กลายเป็นปลายน้ำของต้นน้ำของวัตถุดิบ วันนี้อาหารสัตว์คือปลายน้ำแต่เป็นต้นน้ำของฟาร์ม ฟาร์มกลายเป็นกลางน้ำของโปรเซสแค่โรงฆ่า โรงฆ่าคือต้นน้ำของการแปรรูปอาหาร ทั้งอาหาร อาหารสำเร็จรูปและแปรรูปอาหารเหลือรูป แปรรูปอาหารเหลือรูปคืออะไร คือหั่นชิ้นส่วนไก่ทำเป็นไก่ทอด แปรอาหารหมดรูปก็คือคุณเอามาสับให้เป็นไก่บะช่อ ส่วนสำเร็จรูปคือการทำองค์ประกอบให้ยากขึ้น ลงทุนมากขึ้นและยากจริงๆ
คุณสุขวัฒน์ให้ข้อคิดว่าวันนี้เรามีสถาบันที่เป็นที่สร้างผู้นำที่จะต่อยอด รับช่วงที่จะรับธุรกิจที่มีออกไป ท่านพูดอยู่เสมอจะทำอะไรก็ตามมีทุนแล้วมีคนไหม มีคนยังไม่ต้องมีทุนก็ได้เพราะคนหาทุนให้เราได้ วันนี้เราได้สร้างคนหนุ่มสาวขึ้นมาเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณเห็นอะไรไหม ซีพีเฟรชมาร์ท ฟาร์ม โรงเชือดทั้งหลายตัดสินใจปิดไม่ให้ขายหน้าโรง เพราะเรามีคนหนุ่มสาวเป็นกำลังสำคัญ เรามีเฟรชมาร์ทที่จะเป็นตัวขายหน้าร้าน เหมือนที่ท่านพูด20%ขายหน้าร้าน อีก80%ขายหลังร้าน ขายส่ง ขายทั้งสำเร็จรูป โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร วันนี้ท่านมีแนวคิดว่าขายปลีกต้องให้เซเว่น เพราะเซเว่นมีสาขามากและมีความชำนาญในการทำ และวันนี้เซเว่นเริ่มทำวัตถุดิบ ขายไก่ ขายส่งถึงผู้บริโภค ท่านประธานอาวุโส เป็นตัวแบบที่ดีไม่ต้องไปเรียนรู้จากใคร
“ร้านอาหารเป็นไปตามวงจรการเปลี่ยนแปลง เพราะอะไรเราถึงมาสร้างโรงเรียนสอนทำอาหาร เพราะวันนี้ถ้าเราไม่สร้างบุคลากรเพื่อจะเป็นเถ้าแก่ร้านอาหาร เราสร้างบุคลากรให้กับสังคมและเป็นมืออาชีพ เป็นเชฟ เราจำเป็นต้องมีโรงเรียนที่ได้มาตรฐานที่จะสอนเค้าและที่สำคัญเรามีวัตถุดิบที่เค้าจะได้เรียนรู้ว่าวัตถุดิบอันไหนจะใช้ทำอะไรในขณะเดียวกัน สิ่งที่เค้าไปเปิดร้านอาหารและอาจกลายเป็นเชฟที่ออกไปต่างประเทศ ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างบุคลากรด้านอาหาร สร้างมูลค่าอาหารให้กับประเทศไทย ผมสร้างตามที่ท่านคิดไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสอนทำอาหาร ศูนย์พัฒนาอาหาร สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นองค์ประกอบ มันเป็นหัวใจสำคัญอีกช่องหนึ่ง หัวใจมี4ห้อง ตอนนี้เรามีสถาบันสอนผู้นำ 1ห้อง โรงเรียนทำอาหาร ต้นทางวัตถุดิบก็เป็นหัวใจอีกห้อง การแปรรูป สำอาหารสำเร็จรูปก็เป็นหัวใจ และวันนี้เรามี 4อย่างนี้ พร้อมที่จะขยายไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่ไป อาเซี่ยน เอเชีย อเมริกา ยุโรป ทำไมเราไม่ไปอเมริกาในแบบฉบับของซีพี”
อาหารสุขภาพคืออนาคตคือโอกาสของซีพี
คุณสุขวัฒน์แบ่งปันบทเรียนในการเป็นเป็นริเริ่มความคิด อย่าคิดว่าเราจะทำสำเร็จ คนที่มีความคิดริเริ่มจะเป็นผู้ที่เก่งอย่างเดียว เพราะเห็นโอกาส ทำโอกาสให้เป็นรูปธรรมให้ท่านได้เห็น หลังจากนั้นเราต้องมีคนเก่งกว่านี้อีกที่มาช่วยทำ วันนี้เวลาไปสถาบันผู้นำมีความภูมิใจมาก ในโลกนี้มีไหมแบบที่เราพูด ทั้งโรงเรียนสอนทำอาหารศูนย์R&Dไม่น้อยหน้าในเอเชีย สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างเพื่อไปข้างหน้า แต่วันนี้ถือว่าเหมาะสมกับเวลาแล้วที่จะต้องมีงานวิจัยเรื่องอาหารการกิน อาหารอร่อย ปลอดภัยและเข้ากับกฏบัตรสหประชาชาติที่เราต้องผลิตอาหาร20%เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ กินแล้วไม่ป่วย
“ฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดไว้หลายสิบปีแล้วว่าอาหารสัตว์ของเราทำไมถึงต้องมีการแยกประเภทอาหารตามวัย แม้แต่สุกรอ่อน สุกรรุ่น สุกรขุน แม่หมู พ่อหมู ไก่ก็เหมือนกัน แล้วท่านก็ตั้งคำถามว่าแล้วคนละ ท่านพูดเรื่องนี้มาสิบกว่าปีแล้ว แต่ท่านไม่เคยลืมเรื่องเหล่านี้ เพราะอะไร เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ท่านพูดล่วงหน้ามาแล้วและวันนี้ท่านก็เห็นว่าโลกต้องการแบบนี้ และผมก็มีโอกาสไปร่วมด้วยเป็นบางส่วน ไปร่วมมือกับจุฬาทำโครงการเพื่อวิจัยอาหารเพื่อผู้ป่วยเฉพาะทาง โรคมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ อันที่สองเราจะทำอาหารให้กับคนป่วยที่อยู่ในวอร์ดต่างๆ วันนี้ซีพีจะต้องทำอาหารทั้งอร่อย ปลอดภัยและเพื่อสุขภาพ เราจะสร้างตามโภชนาการตามความต้องการของแต่ละคน เป็นอาหารสุขภาพจะใช้น้ำมัน น้ำตาลได้ แต่จะต้องมีความเหมาะสมไม่เกินมาตรฐาน ขณะเดียวกันคนเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆต้องทำวิจัย และอันที่3คือโครงการคนชรา วันนี้เป็นกลุ่มสำคัญมาก เราเคยดูแลพ่อแม่ ห่วงใยเรื่องการกิน แต่อาจจะไม่ครบหมู่เหล่า”
“ วันนี้ทั่วโลกจะมีอาหารพวกนี้แน่นอนเช่นเอ็นชัวร์ ล้วนแต่อยู่กับโรงพยาบาลทั้งหมด ผมเชื่อว่าซีพีมีศักยภาพที่จะทำ วันนี้เราทำให้กับรามา ให้ทางสายยาง ให้ทางปากทาน ถ้าเรามีเครื่องมืออีกตัวหนึ่งเรียกว่าสเปรย์ดราย เหมือนนมสดใส่เครื่องนี้ก็ออกมาเป็นผง น้ำซุปที่เราผลิตอยู่ก็สเปรย์ได้ เราก็ทดลองแล้ว และอร่อยด้วย สะดวกต่อการพกพา สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าซีพีต้องทำ ทั้งหมดที่เล่ามานี่คือห่วงโซ่อาหาร อาหารกล่องทุกกล่องต่อไปต้องเพื่อสุขภาพหมด อันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อโลกต่อประเทศต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าตลาดทั่วโลกคือตลาดของเรา”
“วันนี้เรายังมีโอกาสที่จะสร้างอาหารเหล่านี้ และอาหารเหล่านี้ที่เราแปรรูปก็คือต้นน้ำของอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อคนป่วย อาหารเพื่อคนชรา”คุณสุวัฒน์บอก
ซีพีทำเรื่องอาหารจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ต่อโลก
คุณสุขวัฒน์มองว่าสิ่งที่ซีพีทำเรื่องอาหารจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ต่อโลก 100ปีที่ผ่านมาและต่อไปอีก100 ปีข้างหน้า เพราะเรากำลังสร้างคนรุ่นใหม่มารองรับ สร้างศูนย์วิจัยด้านอาหาร เวลานี้ก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามา เราไม่ห่วงที่จะก้าวลง อยู่ที่เราทำตัวให้เราลงไหมหรือถูก เชิญให้ลงไหม ทุกก้าวเดินเราต้องนึกถึงองค์กรที่เราอยู่
“อะไรที่ทำให้ผมอยู่ซีพี 50ปี ก็ผมดีใจอย่างหนึ่งผมมาเห็นการเริ่มต้นหลายอย่างของซีพี และสองก็มาขายไปแล้วกลับมาอยู่กับเรา ผมเห็นทุกอย่างจนสุดท้าย มีครบหมด ต้นน้ำ วัตถุดิบมาถึงจนสร้างคน สร้างคน เราสร้างคนให้เป็นผู้ชำนาญการ และเราสร้างคนที่ชำนาญการให้เป็นเถ้าแก่ เรามีโรงเรียน มีศูนย์วิจัยอาหารที่จะไปได้อีกไกล อยู่ที่คนรุ่นใหม่จะพัฒนาปรับปรุง เค้ามีเวทีแล้ว ซีพีมีห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์แบบ มีเรื่องให้คนหนุ่มสาวทำอีกมาก อย่างอาหารเฉพาะทาง อาหารสำหรับผู้ป่วย อาหารสำหรับผู้ที่กินทุกชาม ทุกกล่อง ทุกอย่าง ต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อยู่ในกฎของNutrition แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไรทุกอย่างจะเหมือนกันคือความอร่อย ความอร่อยไม่ได้อยู่ที่การปรุง ความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบต้นน้ำ ไก่ต้องสด สุกรต้องสด ถ้าคุณทำได้แบบนี้ซึ่งซีพีทำได้”
รัก สามัคคีคือพลัง คือกำลังใจ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน
ช่วงท้ายคุณสุขวัฒน์ฝากข้อคิดว่าฉะนั้นความภูมิใจที่เห็นที่ผมชอบพูดเสมอคือ “รัก สามัคคีคือพลัง คือกำลังใจ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน “ สุดท้ายที่เราทำมาทั้งหมดคุณทำงานแล้วมีความสุขไหม คุณทำงานแล้วมีความสุขไหม คุณทำงานแล้วรักมันไหม ถ้าคุณทำงานบอกว่ามีความสุขแต่ไม่มีความรัก เพราะฉะนั้นคนทำงานเราต้องสร้างให้เค้าเกิด 3อย่างในตัวเดียว เหมือนเก้าอี้3ขา ความสุข ความสนุกและความรัก ถ้าเราทำงานแล้วมีทั้ง 3อย่างนี้นั่นแหละคือ”รัก สามัคคีคือพลัง เป็นกำลังใจเพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน” และเรามีครอบครัวใหญ่ทั่วโลกแล้วนะ