สืบเนื่องจาก คุณวิภัศศรี วรรณวิไชย ลูกค้าที่ใช้บริการเซเว่นเดลิเวอรี่เป็นประจำ เธอผ่านวินาทีเฉียดตายจากโรคหอบกำเริบขั้นรุนแรง เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิต แต่รอดชีวิตมาได้ เพราะ คุณสุมนศรี เพ็งทับ หรือ คุณเต้ พนักงาน 7-11 สาขา Work Place (หนองแขม) หมู่บ้านหรรษาทาวน์ ได้ช่วยชีวิตเธอให้รอดจากนาทีวิกฤติ
เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่คุณสุมนศรีนำสินค้าจากร้าน 7-11 ไปส่งโดยพบว่าคุณวิภัศศรีมีอาการเกร็ง ล้มลงกับพื้น หายใจรวยริน จึงรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และได้ติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพ เพื่อปฐมพยาบาล และส่งถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย ซึ่งคุณสุมนศรีพนักงานไรเดอร์ของ 7-11 กล่าวว่า “ยุคนี้ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ลูกค้าคือครอบครัวของเรา” บ่งบอกถึงจิตใจที่ดีของเธอ ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ทุกคนที่ได้ยินได้ฟัง จนเกิดกระแสชื่นชมบนโลกออนไลน์
เรื่องราวของเธอเป็นตัวอย่างที่ดีของพนักงาน โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แสดงความชื่นชมและขอบคุณคุณสุมนศรีพร้อมทั้งมอบเกียติบัตร ยกย่องคุณงามความดีของเธอ โดยคุณวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการร่วม คุณไพฑูรย์ รำพึง ผู้จัดการทั่วไปด้านปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดีด้วย
คุณสุภกิตประธานกรรมการ เครือซีพี กล่าวภายหลังการมอบประกาศเกียรติคุณแก่คุณสุมนศรี ว่า “ประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นคนมีน้ำใจ ศาสนาพุทธสอนให้พวกเราทำดี ซึ่งเป็นความเชื่อที่เรามุ่งมั่นที่จะทำต่อไป และขอให้นำสิ่งนี้ส่งต่อให้ถึงลูก เพื่อให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีและคนเก่ง เมืองไทยมีคนเก่งจำนวนมาก เด็กไทยมีความสามารถได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย และในส่วนการทำงานของคุณสุมนศรี ปัจจุบันเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ หากเมื่อใดมีความพร้อมก็ยินดีที่จะให้เข้ามาทำงานประจำ และสนับสนุนให้เติบโตในหน้าที่การงานต่อไป”
ปัจจุบัน คุณสุมนศรี เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ส่งของเดลิเวอรี่ของ 7-11 เนื่องจากไม่สามารถทำงานเต็มเวลา เพราะต้องดูแลลูกน้อยอายุเพิ่งจะ 4 ขวบ ซึ่งเมื่อเธอมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนมาเป็นพนักงานประจำ เซเว่น อีเลฟเว่น พร้อมที่จะรับและสนับสนุนให้ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นต่อไป
จากคำบอกเล่าของ คุณวิภัศศรี วรรณวิไชย ที่พูดไว้ในคลิปที่แชร์ออกไป เธอเล่าว่า วันนั้นสั่งของจาก 7-Eleven Delivery และผู้ที่ทำหน้าที่จัดส่งให้เธอคือคุณสุมนศรี ซึ่งมาส่งให้เธอเป็นประจำ
คุณวิภัศศรี วรรณวิไชย เป็นลูกค้าที่สั่งของจากเซเว่นเดลิเวอรี่เป็นประจำ ซึ่งผู้ส่งสินค้าให้เธอเป็นประจำตลอดมาก็คือคุณสุมนศรีนั่นเอง และนาทีเฉียดตายในวันนั้นเกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังรับโทรศัพท์จากคุณสุมนศรี ซึ่งขับรถมาส่งของ และมาถึงหน้าบ้านพอดีและโทรบอกให้เธอออกไปรับสินค้าที่สั่งไว้ ตอนนั้นเธอมีอาการ เจ็บหน้าอกมากหายใจไม่ออก มีการอาการมือเท้าเกร็ง ซึ่งเป็นอาการของ”โรคหอบกำเริบ” ขั้นรุนแรงจนคิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว
“ขณะนั้นเหมือนว่าตัวเองกำลังจะหมดสติ เหมือนเป็นลมหายใจสุดท้าย พอได้รับโทรศัพท์พูดออกไปว่า ช่วยด้วย,,,” เธอเล่าให้ฟังถึงวิกฤตของชีวิตในครั้งนั้น
เสียงจากปลายสายที่คุณสุมนศรีได้ยินคือ “ช่วยพี่ด้วย…” เธอรับรู้ได้ทันทีว่าลูกค้ากำลังได้รับอันตราย เธอไม่รอรี รีบจอดรถและวิ่งเข้าไปทันที
“ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแต่ว่าพี่เขาคงเป็นอะไรสักอย่าง วิ่งเข้าไปตอนแรกหาไม่เจอ เพราะพี่เขานอนอยู่และมีผ้าปิดไว้ พอเจอพี่เขาก็เข้าไปจับตัวพี่เขา แล้วบอกว่าพี่แอนอย่าเป็นอะไรนะ พี่แอนต้องสู้ ตอนนั้นหนูร้องไห้ พยายามเรียกให้พี่เขามีสติ บีบนวดมือเท้า และก็ติดต่อเรียกรถพยาบาลให้มารับ พอได้ยินเสียงหวอรถพยาบาล หนูคิดในใจ พี่เขาต้องรอด พี่เขาต้องไม่ตาย…..” คุณสุมนศรี เล่าให้ฟัง
ในที่สุด คุณวิภัศศรี รอดพ้นวินาทีเฉียดตายในครั้งนั้นมาได้และได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจ และพูดถึงความทรงจำดีที่มีต่อ เซเว่น อีเลฟเว่นว่า “ขอบคุณน้องสุมนศรีมากๆขอให้เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของทุกคน ขอบคุณที่รู้สึกว่ามีประสบการณ์ดีๆ และมีความทรงจำดีๆ กับเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้รู้ว่าการทำงานด้วยใจเป็นอย่างไร ขอให้เซเว่นรักษามาตรฐานแบบนี้เอาไว้ และสร้างบุคคลากรดีๆ แบบนี้ต่อไป”
สิ่งที่คุณสุมนศรี ทำในวันนั้นเป็นสิ่งที่มาจากใจ จากความรู้สึกที่เห็นว่าคุณวิภัศศรีคือคนในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอยึดถือเป็นแนวทางในการทำงานตามหลักการของ 7-11
“ขอขอบคุณบริษัท ขอขอบคุณท่านประธานสุภกิต รู้สึกดีใจมากที่เห็นในสิ่งที่ทำในวันนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ที่พนักงานตัวเล็กๆ ทำ คือเห็นว่า ลูกค้าคือคนในครอบครัว เราต้องช่วยเขาไว้ให้ได้” คุณสุมนศรี กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
คำว่า “ลูกค้าคือ ครอบครัว” ได้สะท้อนให้เห็นจากการกระทำ และทำให้เธอสามารถชนะใจลูกค้า
”ชนะหนึ่งใจลูกค้า ชนะได้ทุกคน” เราขอชื่นชม ทั้งแนวคิด และการกระทำที่เธอได้ร่วมร้อยเรียงความดี ให้เป็นตัวอย่างที่ดีของพวกเราชาวซีพีต่อไป
ที่มา:Wearecp.com
